10/12/2552

การออกกำลังกายที่ดีที่สุด

เพื่อนๆ รู้มั้ยค่ะว่า การออกกำลังกายแบบไหน เป็นการออกกำลังกายที่ดีที่สุด นักค้นคว้าตั้งข้อสังเกตว่าการออกกำลังกายกลางแจ้งนั้น ช่วยให้เราเผาผลาญแคลอรีได้มากที่สุด

การศึกษาที่มหาวิทยาลัยดุ๊กพบว่า
- การเล่นสกี เผาผลาญแคลอรีได้ดีสุด






- การวิ่งนอกบ้าน มาเป็นอันดับสอง




- ตามด้วยการเดินขึ้นเขาเป็นอันดับสาม



การศึกษาบอกว่าคนน้ำหนักเกินพิกัดที่เดินสบายๆ ราว 3.2 กม./ ชั่วโมง จะเผาพลาญพลังงานได้มากกว่าเดินปกติ 4.8 กม./ชั่วโมง
ความเชื่อที่ว่าเมื่อคนมีน้ำหนักเกินพิกัดแล้วเดินเร็วขึ้นก็เปลี่ยนท่าทางเพื่อลดพลังงานที่เผาผลาญเวลาเดินช้าลง ท่าจะหวนกลับมาเหมือนเดิม แล้วเผาผลาญแคลอรีได้มากขึ้น
เมื่อรู้แบบนี้แล้ว เพื่อนๆ ก็ลองไปออกกำลังกายนอกบ้านดูนะค่ะ จะได้ลดแคลอรี ในร่างกาย และดูว่าเราจะผอมเพรียว กว่าการออกกำลังกายแบบ indoor ยังไง ค่ะ

9/23/2552

อาหารต้านโรค

ตำรับ “โภชนาการบำบัด” (บางส่วน) ที่สืบทอดกันมานาน และควรสืบทอดกันต่อไป เพราะหาง่าย ราคาถูก ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าป้องกันและรักษาได้จริง ทั้งไม่มีผลข้างเคียงเหมือนยาแผนปัจจุบันหลายๆ ตัว




โรค: ปวดหัว
ควรรับประทาน: ปลา (ทั้งน้ำจืดและน้ำเค็ม)
เพราะ: น้ำมันปลามีสรรพคุณช่วยป้องกันและแก้อาการปวดหัว ยิ่งรับประทานร่วมกับขิงจะช่วยให้หายเร็วขึ้น

โรค: ภูมิแพ้
ควรรับประทาน: โยเกิร์ตหรือนมเปรี้ยว

โรค: หัวใจ
ควรรับประทาน: ชาเขียว (เป็นประจำ)
เพราะ: สารประกอบในชาเขียวช่วยป้องกันไม่ให้ไขมันไปจับตัวตามผนังหลอดเลือด

โรค: นอนไม่หลับ
ควรรับประทาน: น้ำผึ้ง (เป็นประจำ)
เพราะ: สารอาหารในน้ำผึ้งมีฤทธิ์เป็นยากล่อมประสาท ทำให้หลับสนิท

โรค: หืดหอบ
ควรรับประทาน: ต้นหอมหรือหัวหอม
เพราะ: มีตัวยาทำให้หลอดลมปลอดโปร่ง

โรค: ไขข้ออักเสบ
ควรรับประทาน: ปลาแซลมอน ทูน่า ปลาโอ ซาดีนส์ แม็คเคอเรล ฯลฯ
เพราะ: น้ำมันปลาทำให้อาการอักเสบลดลง

โรค: ท้องอืด ท้องผูก
ควรรับประทาน: กล้วยหรือขิง
เพราะ: กล้วยช่วยถ่ายท้อง ขิงช่วยขจัดอาการคลื่นไส้ในตอนเช้า

โรค: ท้องร่วง
ควรรับประทาน: แอปเปิ้ลสุกทั้งเปลือก (แต่ควรล้างให้สะอาดเพื่อป้องกันยาฆ่าแมลง)

โรค: หงุดหงิด ฟุ้งซ่าน
ควรรับประทาน: ข้าวโพด
เพราะ: ข้าวโพดช่วยบรรเทาความเครียด ความวิตกกังวล และความคิดสับสนได้เป็นอย่างดี

โรค: กระดูกพรุน
ควรรับประทาน: สับปะรด
เพราะ: สับปะรดอุดมด้วยแมงกานีส ช่วยให้กระดูกแข็งแรง

โรค: ความจำเสื่อม
ควรรับประทาน: หอยนางรม หอยแครง และหอยอื่นๆ
เพราะ: ในหอยมีสารสังกะสีช่วยบำรุงสมอง

ทั้ง หมดที่กล่าวมา แม้ยังไม่เป็นโรคอะไร ก็ควรรับประทานอย่างสม่ำเสมอ เพราะเป็นอาหารในชีวิตประจำวัน และเป็นการป้องกันเอาไว้ก่อน ดีกว่าเป็นแล้วค่อยมาแก้ไขในภายหลัง


8/20/2552

วิธีการแต่งหน้า

เอ...แต่วันนี้ มาบอกขั้นตอนของการแต่งหน้ากันดีกว่า (ที่มี* อยู่ข้างหน้า แปลว่าข้ามไปได้ ไม่ทำก็ไม่เป็นไรนะจ๊ะ)

1. เราต้องล้างหน้าให้เรียบร้อย พร้อมทั้งเช็ดด้วยโทนเนอร์เพื่อทำความสะอาดอย่างล้ำลึก (ถ้าคนแพ้ง่ายและหน้าแห้งเนี่ย เราไม่แนะนำให้ใช้โทนเนอร์เท่าไหร่ เพราะมันจะทำให้หน้าแห้งมากและเป็นขุยง่าย)

2. ทามอยซ์เจอไรเซอร์ ตามแต่สภาพผิวของแต่ละคน ถ้ามีกันแดดด้วยก็จะดีมาก แต้ม 5 จุด ทั่วหน้านะฮะ แล้วเกลี่ยด้วยนิ้วนางหรือนิ้วก้อยเลยก็ได้ (วิธีเกลี่ยนี้ ใช้ได้กับทุกผลิตภัณฑ์)

*3. ลงMake upBase เพื่อปรับสีผิวของหน้าเราให้เป็นธรรมชาติมากขึ้น เท่าที่ความรู้จะพอจำได้เนี่ย
make up base มีหลายสีเน้อ....สำหรับคนสีผิวหน้าหลายแบบ
แต่ถ้าแต่งเล่นๆ หรือคอสเฉยๆก็ไม่ต้องใช้ก็ได้ ....ถูกแล้ว
make up baseจริงๆที่เคยเห็นมี 3 สี คือ เหลือง, ม่วงและเขียว (ของลังโคมก็ดีนะตะเอง)
สีเขียวเหมาะกับคนที่หน้าหมองคล้ำ เช่น นอนน้อย ตาเป็นแพนด้า หรือคนผิวสีคล้ำ จะทำให้หน้าสว่างขึ้นเพราะมันจะทำการตัดสีกับผิวหน้า
สีม่วง เหมาะกับผิวที่เป็นรอยแดงจากสิว จะช่วยกลบสีแดงๆได้
สีเหลือง เหมาะกับคนผิวสองสี เพราะจะทำให้หน้าสว่างและทำให้รองพื้นที่เราใช้กลมกลืนกับผิวหน้าคนไทยมากขึ้นจ้ะ

4. ลงรองพื้นโลด ทา 5 จุดเช่นเคย ถ้าอยากรู้รายละเอียดเพิ่มเติมก็ไปอ่านที่น้องปลาต่อได้
เค้าว่ากันว่า นิ้วคนเราเนี่ยเป็นสิ่งที่แต่งหน้าได้ดีที่สุดแล้วจ้ะ เพราะว่าพวกฟองน้ำเกลี่ยเนี่ย มันจะเปลือง
แถม ถ้าเราไม่ค่อยล้างฟองน้ำที่ทารองพื้น มันก็จะเน่าได้ แล้วก็เวลาทาเนี่ย ทาให้หมดทั้งหน้านะจ๊ะ ไม่เว้นแม้แต่เปลือกตาและรอบริมฝีปาก บางทีก็ทาบนริมฝีปากไปเลยก็ได้ เพราะถ้าจะเขียนขอบปากใหม่ จะง่ายขึ้นมากๆ แต่ตอนนี้มีการรองพื้นแบบใหม่ เค้าเรียกว่าแบบเพชร คือ ทาแค่กรอบหน้าตรงกลางจ้ะ


5 จุดแบบเพชร


5. ตอนทารองพื้นเนี่ย แนะนำให้ทาลิปมันรอที่ปากด้วยนะจ๊ะ ปากจะได้ชุ่มชื่นไม่แห้งแตกเวลาทาลิปจริง

*6. ลงคอนซีลเลอร์ เพื่อปกปิดจุดบกพร่องบนใบหน้า
คือ จะเป็นรองพื้นแต่ว่าจะมีสีอ่อนกว่าสีใบหน้าจริงของเรา คอนซีลเลอร์เนี่ยเอาไว้ปกปิดรอยสิวและรอยกระได้จ้ะ ก็จะมีทั้งแบบแท่งไว้แต้มเป็นจุดๆและแบบครีม

*7. Hi-light&Shading คอนซีลเลอร์และไฮไลท์จะมีลักษณะคล้ายๆกัน
ส่วน ไฮไลท์เนี่ย จะเอาไว้ทา4จุด คือ บริเวณใต้ตา, สันจมูก(สำหรับคนไม่ค่อยมีดั้ง), ใต้ริมฝีปาก, ร่องแก้ม และอาจลงตรงปลายคิ้วด้วยก็ได้ เพื่อทำให้ตาเราโตขึ้น
เฉดดิ้ง(Shading) ก็เหมือนการลงแสงเงาให้ใบหน้าน่ะแหละ แบบว่าเราต้องมองว่าหน้าเราเนี่ยเป็น 3 มิติใช่มะ
เฉดดิ้งก็จะลง4จุดเช่นกัน เพื่อสร้างเงาให้ใบหน้า คือ ขอบหน้าผาก, ขอบกราม (สำหรับคนหน้าบาน), ปีกจมูก, แนวโหนกแก้ม

<------- รูปน่าเกลียดอย่างรุนแรง แต่แต่งแบบนี้จริงๆนะ
+++ นี่คือ การแต่งหน้าวัยรุ่น ถ้าอยากแก่ก็ให้กลับตำแหน่งของไฮไลท์และเฉดดิ้ง+++
ถ้าไม่อยากเปลืองมาก จะทำไฮไลท์-เฉดดิ้งในขั้นตอนการลงสีสันเลยก็ได้จ้ะ

8. ลงแป้งฝุ่นทับ ...ย้ำว่าแป้งฝุ่น เพราะถ้าคุณลงรองพื้นแล้วก็คือการเคลือบหน้าในระดับหนึ่งแล้ว
บางคนเข้าใจผิด เอาแป้งอัดแข็งหรือแป้ง2wayมาลง มันจะทำให้ยิ่งหนาเป็นหน้ากากมากขึ้น
การ ลงแป้งเนี่ย ให้ใช้การตบเอาอย่าปัดหรือปาด เพราะจะทำให้รองพื้นและไฮไลท์-เฉดดิ้งที่ลงไว้เสียหมด (เหมือนแต่งหน้าเค้กน่ะแหละ) ลงแป้งไปเยอะๆเลยนะคะ เอาให้ทั่วทุกส่วนของใบหน้า จะได้เรียบเนียน ไม่ต้องกลัวว่าหน้าจะวอก เพราะกว่าจะแต่งหน้าเสร็จแป้งก็คงจะหลุดร่วงไปเยอะแล้วล่ะ วิธีพิสูจน์ว่าเรียบเนียนหรือยัง ก็เอานิ้วมาลองอังๆ ว่าลื่นหมดทั้งหน้าหรือยัง ถ้ายังก็ลงเพิ่มไปอีกค่ะ

9. เรามาเริ่มแต่งสีสันบนใบหน้ากันดีกว่าเริ่มจากส่วนของคิ้วนะคะ
บางคนอาจเริ่มที่คิ้ว คนที่ไม่เคยเขียนก็อาจจะกลัวและเขียนคิ้วไม่เท่ากัน
เอา งี้ ทำง่ายๆว่า คิ้วเราจะยาวแค่ไหนดี ให้ใช้พู่กันทาบตรงปลายปีกจมูกและหางตา ไปถึงตรงไหนของคิ้วก็ให้ปลายคิ้วที่เราจะเขียนอยู่ที่นั่น




ถ้าใครกันคิ้วได้ ก็ควรกันคิ้วก่อน...(จริงๆควรกันตั้งแต่ลงมอยซ์เจอร์เสร็จนะ)
แล้ว คิ้วที่จะเขียนเนี่ย มี 2 รูปแบบ คือ แบบคิ้วโค้ง และคิ้วเฉียบ คิ้วโค้งเหมาะกับบุคลิกของสาวอ่อนหวาน จะแต่งหน้าแนวหวานๆก็ให้เขียนคิ้วโค้ง แต่ถ้าจะออกแนวเก๋ๆหน่อยก็ให้เขียนแบบเฉียบตวัดค่ะ

ดินสอ เขียนคิ้วเนี่ย แนะนำว่าให้สีเดียวกับมาสคาร่าหรือสีเดียวกับผมก็ดีค่ะ เหลาให้เกือบแหลมก็ดีนะ เพราะจะได้เขียนแล้วไม่เป็นปื้น พอเขียนได้ที่แล้วก็ค่อยเพิ่มความหนาของเส้นค่ะ
+++ คิ้วเด็กวัยรุ่นก็เขียนแบบหนาก็ได้....บางก็ได้ ไม่ค่อยมีคนว่าหรอกค่ะ แต่ของคนแก่เนี่ยเค้ามักจะเขียนคิ้วเป็นเส้นเล็กค่ะ +++

10. ลงสีที่เปลือกตาค่ะ เราจะใช้อุปกรณ์ที่เรียกว่า อายแชโดว์นั่นเอง....ถ้าแต่งแบบคลาสสิค สาวทำงานเนี่ย ควรมีสีอย่างน้อย 2 สีเป็นแนวEarth Toneติดตัวไว้นะคะ (สีเบจ, น้ำตาลอ่อน, น้ำตาลเข้ม)
เราจะลงสีอ่อนก่อน อาจะเป็นสีเบจ ทาทั่วเปลือกตาก่อน


1 2
3 เสร็จสมบูรณ์


แล้ว เราจะเอาสีเข้มมาลงที่ขอบเปลือกตาและท้ายตา พยายามแปรงเป็นเบ้าๆเพื่อสร้างขอบให้ตานะคะ ยิ่งคนตาเล็กเนี่ย จะหาเบ้ายากมาก ก็ไม่เป็นไร เพราะการเอาสีเข้มมาลงท้ายตาก็สร้างมิติให้แล้ว
+++สำหรับ น้องจะแต่งแนววัยรุ่น ก็เลือกสีแบบแรงๆ ตัดกันก็ได้ เช่น เขียว-เหลือง, ม่วง-ชมพู, ฟ้า-ชมพู ฯลฯ แต่ให้เพื่อนๆช่วยดูด้วยนะ เด๋วเค้าจะนึกว่าเป็นนกแก้ว อิอิ+++

*11. กรีดอายน์ไลเนอร์ให้ตาเฉียบ ตวัดเส้นให้สวยงามนะคะ มีลายสี ถ้าอยากแนวมากเอาสีฟ้ามากรีดก็ได้นะของZAมีขายอยู่ ....จะดูเป็นหมวยอินเตอร์มากๆ

12. ปัดมาสคาร่า เค้าว่ากันว่าแต่งหน้าทั้งหน้าแล้วไม่ได้ปัดมาสคาร่าก็เหมือนแต่งหน้าไม่เสร็จ
ตอนแรกเลยก็ต้องดัดขนตาก่อน ต้องดัด 3 stepนะฮะ ดัดที่โคน, ดัดตรงกลางขนตาแล้วก็ดัดปลาย
ดึงๆนิดๆ เพื่อให้ขนตางอนๆหน่อยก็ได้ แต่อย่าดึงมากนะ เด๋วจะหลุดมาหมด
เวลาปัดเนี่ย ก่อนเอามาสคาร่าออกจากแท่งก็ปัดๆที่ขอบนิดๆ เพื่อปัดมาสคาร่าที่เกินๆออกไป


ขั้นแรกก็ปัดลงเฉยๆ



ขั้นสองก็ตวัดขึ้นให้เด้ง




ขั้นสุดท้าย
ก็ปัดซ้ายขวา เพื่อให้แยกช่อสวยงาม เป็นอันเสร็จพิธี




*13. มาที่ปากกันบ้าง หลังจากเราทาลิปมันเพื่อให้ความชุ่มชื่นแล้วตั้งแต่แรกๆ เราก็จะมาลงลิปมันอีกรอบหนึ่ง แล้วถ้าอยากจะปกปิดจุดบกพร่องของคนที่ปากใหญ่ หรือปากเล็กไป ก็ให้เขียนขอบปาก เขียนจากตรงกลางปาก

*14. แต่ถ้าไม่อยากให้ดูจริงจังมากไปนัก...ก็ให้ลงสีของลิปเลย จะเอาแบบด้านหรือแบบชุ่มชื้นก็ได้ จริงๆไม่ควรเลือกสีลิปเพียงสีเดียว น่าจะลองซื้อลิปแบบpaletteเอาไว้ผสมสีสวยๆเอาไว้ใช้เองดีกว่านะ

15. ลงลิปกลอส เพิ่มความเนียนใสของวัย บางคนอาจลงลิปกลอสแบบมีสีทีเดียวเลย แต่บางคนก็ใช้ลิปกลอสไม่มีสีเคลือบปากเฉยๆ

16. ยัง..ยังไม่หมดนะ เราขาดแก้มไปได้ไง สีของบลัชออนในการปัดแก้มจะมีอยู่ 2 โทนใหญ่ๆ คือ โทนส้มและชมพู ตอนแรกพวกเจ๊ๆมือโปรเค้าบอกว่า คนดำๆ(อย่างเรา)เนี่ย เหมาะกับโทนสีส้ม...เดี๊ยนก็เชื่อนะ แต่ตอนหลังกล้าๆหน่อย ลองใช้โทนสีชมพูบ้าง...เอ๊ะ มันก็เข้านิ แต่ต้องเลือกชมพูแบบที่เข้มๆหน่อย จะได้เหมาะกับสีผิว เวลาปัด อย่างที่บอกเมื่อบลอคที่แล้วว่า ควรใช้แปรงปัดอันใหญ่ๆหน่อย เวลาปัดจะได้ไม่เป็นดวงๆ แปรงที่แถมมาจากตลับบลัชออนน่ะ เอาไว้ใช้ยามฉุกเฉินเท่านั้น คนหน้าใหญ่ มีโหนกแก้มให้ปัดจากข้างๆ เฉียงลงมาที่แก้ม ไม่ควรปัดมาจนเลยกึ่งกลางของตาดำนะจ๊ะ




คนหน้าเล็ก ไม่ค่อยมีแก้ม ให้ปัดขนานกับพื้นหรือปัดเป็นครึ่งวงกลมจากแก้มไปที่ข้างๆ มีแบบเฉียง 3 เหลี่ยมด้วยนะคะ


ปัดทีละน้อยๆ ค่อยๆเพิ่มความแรงนะคะ ดีกว่าปัดแรงๆแล้วมาแก้ทีหลัง
ถ้าคนไหนปัดมากไป...ก็ให้ใช้การแก้ไขโดยเอาแป้งฝุ่นลงทับนะจ๊ะ อย่าแก้บ่อยนักล่ะ เด๋วจะเป็นลิง 555+
+++ การปัดแก้มแบบครึ่งวงกลม จะเป็นแบบวัยรุ่นค่ะ เวลาปัดก็ให้ยิ้มไปด้วยนะ จะได้รู้ว่าควรปัดส่วนไหน+++


17. ถ้าคนไหนกว่าจะแต่งเสร็จหน้าก็มันแล้ว ก็เอาแป้งฝุ่นมาตบทับอีกหน่อย ก็เป็นอันเสร็จขั้นตอนการแต่งหน้าแล้วจ้ะ

ขอบคุณบทความดีๆ จาก คุณ Hubby http://pompoko.exteen.com/20050302/entry

8/19/2552

Lip & Eye Concealer

เมื่อวานไปเดินแฉ่บๆ แถวๆ Central World กะว่าจะไปซื้อ Eye Conceler ของ Skinfood (ตอนแรกตั้งใจไว้แบบนั้น เพราะว่าดูในเว็บเขาบอกว่าดีนักดีนา ก็อืมมม..) พอเดินๆ ได้ซักพัก ก็ผ่าน watson เลยแอบเข้าไปดูหนอ่ยว่ามี Cakemake หรือเปล่าน๊า..ดูเฉยๆ ค่ะ ไม่ได้ตั้งใจว่าจะซื้อ แต่พอเดินไปเดินมา ปรากฏว่าอ้าวมีจริงๆ อิอิ เลยไปหยิบมาก่อนเลย

1. Canmake lip concealer
Use for:
ใช้ทาริมฝีปาก ก่อนทาลิป เพื่อปกปิดรอยคล้ำที่ริมฝีปาก
guide: เบอร์01 เหมาะกับผิวขาว
เบอร์01 เหมาะกับคนผิวสองสี และสีผิวคล้ำ
ราคา :
369 บาท



สถานที่ขาย : Watson ณ - Centralworld
- Central ลาดพร้าว
- Central ปิ่นเกล้า
- Central พระราม 2
- Lotus ปิ่นเกล้า
(อันนี้เท่าที่ทราบนะค่ะ เพราะว่าบางสาขาก็ไม่มี Boot ของ Canmake ค่ะ


2. Skinfood Salmon darkcicle concealer cream
Use for: ใช้ทาใต้ตาเพื่อปกปิดรอยคล้ำใต้ตา ในเนื้อครีมจะมีโอเมก้า 3 ที่ช่วยบำรุงผิวใต้ตาด้วย
guide: เบอร์01 เหมาะกับผิวขาว
เบอร์01 เหมาะกับคนผิวสองสี และสีผิวคล้ำ
ราคา : 680 บาท



สถานที่ขาย : - สกินฟู๊ด เซ็นทรัล เฟลติวัล พัทยา บีช
333/9 ม.9 ห้องเลขที่ 60 ชั้น G ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี 20260
038-043-274

- สกินฟู๊ด เดอะมอลล์งามวงศ์วาน
เคาน์เตอร์เดอะมอลล์งามวงศ์วาน
02-550-1104

-
สกินฟู๊ด เดอะมอลล์บางกะปิ
ห้องเลขที่ GS-C19 เลขที่3522 ถ.ลาดพร้าว แขวง คลองจั่น เขต บางกะปิ กทม.10240
02-734-1598

- สกินฟู๊ดคาร์ฟูร์ รัชดาภิเษก
125 ชั้น2 ถ.รัชดาภิเษก ดินแดง กรุงเทพ 10400
0-2642-2293

- สกินฟู๊ดซีคอนสแควร์ ซีคอนสแควร์
เลขที่2038 ชั้นที่ 2 เลขที่ 55 ถ.ศรีนครินทร์ แขวงหนองบอน เขต ประเวศ กทม. 10250
0-2721-8004

- สกินฟู๊ดเซ็นทรัล แอร์พอร์ต พลาซา
เซ็นทรัล แอร์พอร์ต พลาซา ชั้น 1 ต.หายยา อ.เมือง จ.เชียงใหม่ 50100
053-280982

- สกินฟู๊ดเซ็นทรัลซิตี้บางนา
เซ็นทรัลซิตี้บางนา 1091 ชั้น 2 ถ.บางนา-ตราด บางนา กทม.
0-2398-9715

- สกินฟู๊ดเซ็นทรัลพลาซ่า แจ้งวัฒนะ
เซ็นทรัลพลาซ่า แจ้งวัฒนะ ชั้น2 ถ.แจ้งวัฒนะ ต.บางตลาด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี 11120
02-101-0405-6

- สกินฟู๊ดเซ็นทรัลพลาซ่าปิ่นเกล้า
เซ็นทรัลพลาซ่าปิ่นเกล้า 7/363 ชั้น2 ถ.บรมราชนี แขวงอรุณอมรินทร์ เขตบางกอกน้อย กทม.
0-2884-5048

- สกินฟู๊ดเซ็นทรัลพลาซ่าพระราม2
เซ็นทรัลพลาซ่าพระราม2 128 หมู่6 ห้อง211 ชั้น2 ถ.พระราม2 แขวงแสมดำ เขตบางขุนเทียน กทม.
0-2872-4498

- สกินฟู๊ดเซ็นทรัลรัตนาธิเบศร์
เซ็นทรัลรัตนาธิเบศร์ หมู่8 ชั้น1 ห้อง 130 ถนนรัตนาธิเบศร์ แขวงบางกระสอ เขตเมืองนนทบุรี นนทบุรี 11000
0-2969-9256

- สกินฟู๊ดเซ็นทรัลลาดพร้าว
เซ็นทรัลลาดพร้าว ชั้น 3 ถ. พหลโยธิน ลาดยาว เขตจตุจักร กทม. 10900
0-2937-1315

- สกินฟู๊ดเซ็นทรัลเวิลด์พลาซ่า
เซ็นทรัลเวิลด์พลาซ่า เลขที่ 204 ชั้น2 อาคารศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ เลขที่4, 4/1-2, 4/4 ถ.ราชดำริ ปทุมวัน กทม.
0-2613-1058

- สกินฟู๊ดเดอะมอลล์ท่าพระ
99 ถ.รัชดาภิเษก ( ท่าพระตัดใหม่ ) แขวง บุคคโล เขต ธนบุรี กทม.10600
0-2477-7214

- สกินฟู๊ดเดอะมอลล์บางแค
เดอะมอลล์บางแค ห้องเลขที่ GS-R4 257 หมู่1 ถ.เพชรเกษม แขวงบางแคเหนือ เขตบางแค กทม.
0-2803-8349

- สกินฟู๊ดเทสโก้โลตัล ปิ่นเกล้า
ศูนย์การค้าเทสโก้ โลตัส ปิ่นเกล้า เลขที่ 3 ถ.บรมราชชนนี แขวง อรุณอรมรินทร์ เขต บางกอกน้อย กทม.
0-2884-7400

- สกินฟู๊ดเทสโก้โลตัส บางกะปิ
ศูนย์การค้าเทสโก้ โลตัส บางกะปิ ชั้น2 ถนนลาดพร้าว แขวง/ตำบล คลองจั่น เขต/อำเภอ บางกะปิ จังหวัดกรุงเทพมหานคร
02-733-1576

- สกินฟู๊ดเทสโก้โลตัส ศรีนครินทร์
เทสโก้โลตัส

- สกินฟู๊ดเทสโก้โลตัส ศาลายา
ศูนย์การค้าดทสโก้ โลตัส ศาลายา 99/14 ม.1 ต.บางเตย อ.สามพราน จ.นครปฐม
0-2482-2110

- สกินฟู๊ดเทสโก้โลตัส สุขุมวิท
50 1710 ถ.สุขุมวิท50 แขวง พระโขนง เขต คลองเตย กทม.10400
0-2742-9067

- สกินฟู๊ดฟิวเจอร์พาร์ครังสิต 94
ศูนย์การค้าฟิวเจอร์พาร์ครังสิต (ชั้น1 ฝั่งเซ็นทรัล) ถ.พหลโยธิน ต.ประชาธิปัตย์ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี
0-2958-5319

- สกินฟู๊ดแฟชั่น ไอส์แลนด์
5/5-6 ห้องเลขที่ 1026 A ชั่น 1 หมู่ที่7 ถ.รามอินทรา แขวง คันนายาว เขต คันนายาว กทม. 10230
0-2947-5632

8/17/2552

Lip Concealer สำหรับปกปิดรอยคล้ำของริมฝีปาก

วันนี้เราจะมาพูดเรื่อง Lip Conceler กันค่ะ ว่ามันคืออะไร และ ใช้ยังไง ก็อย่างที่ทราบๆ นะค่ะ ว่า Lip Conceler ยังไงก็ต้องใช้ที่ริมฝีปากของเราแน่นอนค่ะ แต่มันจะเอาไว้ใช้อย่างไรนั้นมาติดตามกันค่ะ


Lip Concealer : เป็นลิปที่เอาไว้ทาก่อนที่เราจะทาด้วยลิปสติก หรือ ลิปกรอส จริงๆ เพื่อปกปิด จุดบกพร่อง หรือรอยเคล้าของริมฝีปากค่ะ เพื่อให้ได้สีลิปติกที่เป็นสีจริง หรือตอนนี้ที่เขากำลังฮิตกันคือสีนู้ด ซีดๆ ให้ริมฝีปากดู Sexyขั้นตอนการใช้งานก็ไม่อยากค่ะ แค่ทาลิปคอนซีเลอร์ลงไปก่อน หลังจากนั้นก็ทาทับด้วยลิปติก หรือ ลิปกรอสที่เราต้องการ แค่นี้ก็เป็นอันเสร็จค่ะ




ReView Lip Conceler

Review by : คุณ XD
ลองซื้อมาใช้เล่นได้สักพักแล้วค่ะ ซื้อมาสองสีเลยเอาไว้กลบสีปากเล่นดู แล้วก็ถ่ายรูปเอาไว้นานแล้วแต่ว่ายังไม่ได้โอกาสโพสค่ะ จนเกือบลืม ^^"

Canmake Lip Concealer นี่ก็ตรงตัวเลยค่ะ เป็นคอนซีลเลอร์เอาไว้ลบสีปากเพื่อให้สีชอบลิปสติกเด่นชัดขึ้น มีทั้งหมด 2 โทนสีค่ะ





อัน บน เบอร์ 02 เป็นสีแทนหรือส้มเบจ ส่วนอันล่างเป็น เบอร์ 01 โทนสีชมพูออกขาวอ่อนกว่าอีกอันค่อนข้างมากค่ะ เนื้อของคอนซีลเลอร์ทั้งสองอันไม่เงา เป็นแบบค่อนข้างด้านๆ ค่ะ

เราลองทากับปากโดยเอานิ้วไปแตะวนๆแล้วค่อยๆมากดลงบนปากค่ะ นี่เราทาเทียบสีกันให้ดู

หมายเลข 1 คือ ตรงที่เราทาสีชมพูขาว
หมายเลข 2 คือ ตรงที่เราทาสีแทน
หมายเลข 3 คือ สีจริงๆของริมฝีปากเราค่ะ

อันนี้ลองทา Lip Concealer ของ Canmake กับ Lip Gloss ของ SHU ดูค่ะ


รูปนี้ทาสีอ่อน


รูปนี้ทาสีแทน


อัน สีอ่อน เราได้ลองเอาไปให้น้องอีกคนซึ่งผิวออกขาวอมชมพูใช้แล้วรู้สึกเหมาะกับน้อง เขามากก็เลยให้ไปค่ะ เราว่าเราทาสีนั้นแล้วดูหลอกๆตา สีแทนน่าจะเหมาะกับคนผิวคล้ำอย่างเรามากกว่าค่ะ

ขอ edited เพิ่มเติมหน่อยค่ะ ที่เราเขียนข้างบนนั่นเป็นการบอกเล่าในแบบของเราเองนะคะ จริงๆแล้วตามเวป ของ Canmake เลยเนี่ย เขาจะบอกว่าCanmake Lip Concealer
เบอร์ 01 จะเอาไว้ใช้ลบสีชมพูของริมฝีปากเราเพื่อให้สีจริงของลิปสติกเด่นชัดขึ้น
ส่วนเบอร์ 02 จะเอาไว้ใช้แต่งหน้าโทนนู้ดค่ะ คือลบสีปากให้เข้ากับสีผิวแล้วทากรอสอย่างเดียว

พอ ดีเราลองเบอร์ 01 แล้วไม่ค่อยชอบนักเพราะผิวเราสีเข้มน่ะค่ะทาสีลิปชัดๆแล้วแปลกๆ แล้วยิ่งพอเราเอาไปให้น้องที่ผิวขาวๆใช้แล้วทาแค่กรอสใสๆทับ ก็สวยแล้วเป็นนู้ดไปอีกแบบ เราก็เลยบอกว่าสี 01 เหมาะกับสาวผิวขาว น่ะค่ะ แต่ยังไม่ทราบว่าสาวผิวขาวทาสี 02 แล้วเป็นแบบไหนนะคะ น่าจะสวยเหมือนกัน

ลองอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมที่เวปของ Canmake ได้ที่นี่ค่ะ
link : Canmake Lip Concealer

ขอบคุณบทความจากบล๊อกนี้นะค่ะ :: http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=reafre&group=5&month=05-2007&date=10&gblog=5


ต่อไปว่าดูว่าเขานิยมใช้ Lip Conceler ของอะไรกันบ้างและมีราคา เท่าไหร่กัน ..
1. Canmake Lip Concealer ราคาโดยประมาณ: 280 หาซื้อได้ที่: วัตสัน (Watson)

7/08/2552

สัญญานและอาการของคนที่ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ สายพันธ์ใหม่ ชนิด A 2009 H1N1 ที่ระบาดในประเทศเม็กซิโก

สัญญานและอาการของคนที่ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ สายพันธ์ใหม่ ชนิด A 2009 H1N1 ที่ระบาดในประเทศเม็กซิโก

อาการ

ของไข้หวัดหมูในคนนั้นมีอาการคล้ายกันกับอาการของคนที่เป็นหวัดปกติ และมีอาการต่อไปนี้คือ มีไข้ ท้องเสีย เจ็บคอ ปวดเมื่อยตามร่างกาย ปวดศรีษะ หนาว และ ไม่มีเรี่ยวแรง อ่อนล้า ร่วมด้วย ในบางคนมีอาการท้องเสียร่วมกับอาเจียน และในอดีตมีรายงานว่าผู้ป่วยหลายคนมีอาการรุนแรงถึงขั้นเป็นปอดบวม และ ระบบหายใจล้มเหลว และเสียชีวิตในที่สุด เช่นเดียวกันกับหวัด ที่ไข้หวัดหมูอาจจะแย่ลงจนต้องมีสภาพการเรื้อรัง
ผู้ที่ติดเชื้อไข้หวัด หมูควรได้รับการพิจารณาถึงศักยภาพในการติดเชื้อ ระยะเวลาความยาวนานของการฟักเชื้อจนมีอาการ และความเป็นไปได้ของอาการป่วยที่ยาวนานถึง 7 วัน เด็กๆ โดยเฉพาะเด็กเล็กอาจได้รับเชื้อเป็นเวลานาน




สัญญานเติอนภัยที่จะ บ่งบอกถึงการต้องเข้ารับการรักษาอย่างเร่งด่วนที่ต้องสังเกตมีดังนี้

ในเด็ก หากเด็กมีอาการหายใจเร็ว หรือหายใจลำบาก ผิวหนังเป็นจ้ำสีน้ำเงิน ดื่มน้ำน้อยไม่เพียงพอ ปลุกไม่ตื่น หรือไม่มีอาการตอบสนอง มีอาการงอแงไม่ยอมให้อุ้ม มีไข้เฉียบพลัน หรือมีอาหารหวัด ไออย่างรุนแรง หากมีอาการเหล่านี้ไม่ควรนิ่งนอนใจ ต้องรีบเข้ารับการรักษาทันที



ในผู้ใหญ่ สัญญานเตือนภัยที่จะต้องรีบรักษาเช่นกันคือ อาการหายใจลำบาก หรือหายใจถี่ เจ็บ แน่นหน้าอกหรือช่องท้อง วิงเวียน หน้ามืด และอาเจียนอย่างรุนแรง หรืออาเจียนเป็นเลือด หากมีอาการเหล่านี้ต้องรีบรักษาอย่างเร่งด่วน






โอกาสในการรับเชื้อ
การ กระจายและการติดเชื้อของเชื้อไข้หวัดหมูมี 2 ทาง คือ ทางแรก เกิดจาการสัมผัสกับหมูที่ติดเชื้อ หรือการอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ปนเปื้อนด้วยเชื้อไวรัสไข้หวัดหมู ทางที่สอง การเกิดจากสัมผัสระหว่างคนกับคนที่ติดเชื้อ การกระจายและติดเชื้อระหว่างคนสู่คนนั้นได้มีการมีบันทึกไว้ และ ถูกคาดการณ์ว่าจะเกิดขึ้นในช่วงฤดูที่มีไข้หวัดระบาด (Seasonal flu) สาเหตุให้ที่จะทำให้เชื้อแพร่กระจายจากคนสู่คนถือการไอ หรือจาม ของผู้ติดเชื้อ

จะรักษาอย่างไร?
ยา ที่จะใช้รักษาอาการไข้หวัดหมูนั้น CDC แนะนำให้ใช้ตัวยา oseltamivir หรือ zanamivir (ทางที่ดีอย่าซื้อกินเอง ควรไปพบแพทย์ค่ะ...ผู้เขียน) สำหรับการบำบัดรักษา การป้องกันเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่จะไม่ทำให้เกิดการติดเชื้อไวรัสนี้ ยาต้านไวรัส (Antivirus drug) ตามคำสั่งยาของแพทย์ไม่ว่าจะเป็นยาเม็ด ยาน้ำ หรือ ยาชนิดสูดดม ที่มีฤทธิ์ต้านหวัดช่วยได้โดยการป้องกันการเจริญและพิ่มจำนวนในร่างกาย (ยังคงมีไวสหลงเหลือในร่างกาย) ถ้าหากมีอาการป่วย ยาต้านไวรัสเหล่านี้สามารถทำให้อาการป่วยลดลงและสามารถทำให้รู้สึกดีขึ้น เร็วขึ้น และอาจใช้ป้องกันอาการหวัดที่รุนแรงได้ สำหรับการรักษานั้นยาต้านไวรัสทำงานได้ดีที่สุดถ้าใช้ตั้งแต่เริ่มมีอาการ ป่วย โดยเฉพาะในช่วงประมาณ 2 วันแรกที่มีอาการเหมือนเชื้อหวัด..ไม่มีวัคซีนในการรักษา อย่างไรก็ตามหากการกระทำใดๆในชีวิตประจำวันที่ผู้คนสามารถใช้ช่วยป้องกันการ แพร่กระจายของเชื้อจุลินทรีย์ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคระบบทางเดินหายใจได้ก็ สามารถนำมาใช้ป้องกันเชื้อไขหวัดหมูนี้ได้



ข้อแนะนำตามขั้นตอนพึงปฏิบัติเป็นประจำทุกวันเพื่อปกป้องสุขภาพของตัวคุณเอง ดังต่อไปนี้
1. ใช้กระดาษทิชชูปิดจมูกและปากของคุณเมื่อไอ หรือจาม และทิ้งกระดาษทิชชูที่ใช้แล้วลงในถังขยะที่มีฝาปิดหลังการใช้ทันที

2. ล้างมือให้สะอาดด้วยน้ำและสบู่ หรือล้างด้วยผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมแอลกอฮอล์ (เช่นเจลล้างมือ) บ่อยๆ โดยเฉพาะหลังการไอ หรือ จาม

3. พยายามหลีกเลี่ยงการพบปะ และสัมผัสกับผู้ป่วย ถ้าหากป่วยเป็นหวัดควรหยุดพักอยู่บ้าน เพื่อจำกัดการพบปะผู้อื่น เพื่อป้องกันการแพร่เชื้อไปสู่ผู้อื่น

4. หลีกเลี่ยงการสัมผัสตา จมูก หรือ ปาก เพราะเชื้อโรคสามารถเข้าสู่ร่างกายทางอวัยวะเหล่านี้ได้

ประชาชน ยังไม่จำเป็นต้องเป็นกังวลกับการจัดเตรียมและรับประทานเนื้อหมู เช้อไวรัสไข้หวัดหมูนี้ไม่สามารถแพร่กระจายได้ทางอาหาร อนึ่งการรับประทานเนื้อหมูที่ผ่านการเตรียมที่ดีและผ่านการปรุงสุกจะช่วยให้ มีความปลอดภัยจากเชื้อโรคนี้

ขอบคุณที่มา www.oknation.net/blog สุขภาพและความงาม




6/30/2552

Review Concealer ยี่ห้อไหนดีเอ่ย...

1. Bobbi Brown Creamy Concealer Kit (1,300 บาท)



2. Lancome palette mix conceler (1,550 บาท)



3. MAC Studio Light (620 บาท)





4. Prescriptives Site Unseen Brightening Concealer SPF 15 (770 บาท)


Tip สำหรับการเลือกใช้ Conceler
ชนิดดินสอ เหมาะสำหรับจุดเล็ก ๆ เช่น รอยสิว ขี้แมลงวัน ชนิดแท่ง เนื้อหนาและแห้งแต่ปิได้เรียบเนียน เหมาะกับคนผิวมัน

ชนิดครีม ปกปิดน้อยกว่าชนิดแห้ง เหมาะกับผิวแห้ง

ชนิดน้ำที่อยู่ในขวดและมีแปรงในตัว เหมาะกับตนผิวขาว เพราะเป็นธรรมชาติ รองพื้น ใกล้แห้งที่ปากขวดใช้แทนไก้ในยามฉุกเฉินค่ะ


วิธีการทา conceler
เวลาทาให้ลงอายครีมก่อน รอสัก 5 นาที ซับด้วยทิชชู่เบา ๆ เริ่มจากแตะจากหัวตาด้านในข้างสันจมูกไล่ออกมายังหางตา ไม่ควรแตะโดยตรงที่หางตาเพราะมันจะเน้นตีนกาค่ะ ค่อย ๆ เกลี่ยด้วยนิ้วนาง(พราะเป็นนิ้วที่เราใช้แรงน้อยที่สุด กันตาย่น)ออกไปในแนวเดียว ถ้าใช้แปรงหรือฟองน้ำจะทำให้น้ำหนักสม่ำเสมอกว่านิ้วค่ะ ที่สำคัญ อย่าทาชิดขอบตาด้านล่างเกินไป เพราะจะทำให้ตาดูเล็กกว่าจริง เว้นระยะประมาณ 1/4 นิ้วค่ะ

Dermalogica total eye cream ใช้ดีที่สุดในโลกค่ะ บำรุงด้วยนะคะ